สวัสดีครับเพื่อนๆ 🙌 วันนี้ผมจะมาแชร์เทคนิคการฝึก DNF (Dynamic No Fins) ครับ 🐬
สิ่งที่แนะนำ 🌟
1️⃣ ฝึกเทคนิค Nofin ให้ดี 🏊♂️
•อาจจะลอง 5 arm stroke หรือ leg kick 5 ครั้ง และลองทำให้ระยะไกลที่สุด ลองวาดแขน และ เตะขาหลายๆแบบดู แนะนำลองดูท่าจากนักแข่งใน youtube เป็น idea ได้ บอกไว้ก่อนนะครับ ท่า No fin ในสระกับในทะเล อาจจะไม่เหมือนกันนะครับ
•ลอง Nofin Sprint 🏃♂️ คือ ว่ายแบบเร็วเๆพื่อดูว่ามีส่วนไหนต้านน้ำบ้าง และ ลองปรับท่าให้ต้านน้ำน้อยลง แนะนำให้ใส่ชุดแขนสั้นขาสั้นฝึก ร่างกายจะได้สัมผัสน้ำได้เต็มที่รู้ว่าส่วนไหนน้ำให้เกิดแรงต้านมากที่สุด
2️⃣ หา Neck weight ใส่และ ปรับน้ำหนักให้แรงลอยตัวพอดีมากที่สุด 🛟
สำคัญมากถ้าตัวลอย หรือ จมเกินไป มีผลทำให้การดำได้ไม่ไกล อย่างใน clip แรงลอยตัวยังไม่พอดีเท่าไร ตัวยังลอยๆ ถ้าแรงลอยตัวพอดี การดำ Nofin ก็จะง่ายขึ้น และ รู้สึกดีขึ้นเยอะ
3️⃣ ฝึก CO2 Tolerance ให้บ่อยๆ 🌬️
อย่างน้อยอาทิตน์ละ 1-2 ครั้ง ถ้าจะให้ดีก็ประมาณ 3-4 ครั้งต่ออาทิตย์ วิธีการฝึกแนะนำก็เป็นพวก
•Over Under No fin 🔄 คือดำ Nofin 25m และขึ้นมาว่ายน้ำต่ออีก 25m โดยไม่มีการพัก! ให้ครบ 10 รอบ(ดำ 25m + ว่าย 25m นับเป็น 1 รอบ) •Dynamic CO2 Table ลองดำ Nofin 25m 8-16 รอบให้ใช้เวลาให้น้อยที่สุด ⏱️
สำคัญมากๆ คือความหนักในการฝึกต้องหนักแต่ไม่ควรหนักมากเกินจนทำรู้สึกไม่อยากฝึกอีกแล้ว เพราะการฝึก CO2 ต้องฝึกติดต่อกันหลายวัน ควรทำให้มีความท้าทาย และ มีความสนุก✨
4️⃣ ทดสอบ Dive Speed หรือความเร็วในการดำ 🚀
ถ้าเราดำเร็วเกินไปก็จะต้องใช้แรงเยอะ 🏋️♂️ และ เจอแรงต้านน้ำที่เยอะมาก ถ้าดำช้าไป O2 ก็เหมือนกับหายไปกับการกลั้นหายใจมากกว่า สมองมีการใช้ O2 ตลอดเวลา เพราะ ฉนั้นต้องลองทดสอบดำแต่ละความเร็วดู ลองช้าบ้าง เร็วบางจนกว่าจะเจอความเร็วที่เหมาะสม
5️⃣ ทดสอบจำนวน kick ต่อ arm stroke 🤹♂️
ว่าเท่าไรเหมาะกับตัวเรา ถ้าไปดู VDO การแข่งนักแข่งหลายๆคนจะใช้จำนวนแขนต่อขาไม่เท่ากัน บางคนใช้ 1 ขา 1 แขน บางคนใช้ 2 ขาต่อ 1 แขน ตัวเลขขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล 🧍♂️ ขึ้นอยู่กับความชอบ Mobility, กล้ามเนื้อ และ อื่นๆ 🤸♂️ เพราะฉนั้นต้องทดสอบ
มีอีกหลายๆ เรื่องที่ทำให้ Nofin ได้ไกลขึ้นสบายขึ้น 🌈 แต่ขอไว้ post หน้านะครับ ใครมีคำถามสามารถถามไว้ใน comment ได้เลยครับ
ตุน 🤙